ความซื่อตรง

ความเป็นผู้ซื่อตรง หมายถึง ตรงในทางที่ดี ทางสุจริต ตรงต่อหน้าที่การงานของตน ต่อมิตรสหายของตน หรือหลักการของตน

      ความซื่อตรงนี้ เมื่อกล่าวโดยลักษณะแยกได้เป็น 6 ประการ คือ

ประการแรก ซื่อตรงต่อบุคคล คือ มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อบุคคลผู้เกี่ยวข้องกับตนเอง ไม่ว่าจะชั้นสูง เสมอกันหรือต่ำกว่าก็ตาม ไม่คดโกงผู้อื่น ไม่นินทาว่าร้ายใครในที่ลับหลังด้วยเจตนาชั่ว ไม่คิดร้ายต่อผู้อื่น ไม่เนรคุณผู้มีพระคุณ
ประการที่ 2 ซื่อตรงต่อเวลา คือ การที่ได้นัดหมายกับใคร เวลาใดแล้ว ไม่ผิดนัด ไปตรงตามเวลา เหมาะสมกับเวลาที่ได้นัดหมายไว้ หรือตั้งใจจะทำอะไร เวลาใด แล้วลงมือปฏิบัติให้เป็นไปตามเวลาที่กำหนดไว้นั้น เพราะคนทุกคนนิยมการไปมาตรงเวลา จึงถือเวลาที่กำหนดไว้เป็นสำคัญ
ประการที่ 3 ซื่อตรงต่อวาจา คือ เมื่อได้รับปากกับใครไว้หรือได้ประกาศไว้ว่าจะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้อันเป็นสิ่งที่ดี และจะไม่กระทำสิ่งนั้นสิ่งนี้อันเป็นสิ่งไม่ดี แล้วกระทำตามที่ได้สัจวาจาเอาไว้ไม่บิดพลิ้วหรือหาข้ออ้างในอันที่จะไม่กระทำตามนั้นโดยประการต่างๆ
ประการที่ 4 ซื่อตรงต่อหน้าที่ คือ ซื่อสัตย์สุจริตและจริงใจต่อตำแหน่งหน้าที่ของตน ไม่ปล่อยให้การปฏิบัติหน้าที่ให้เสียหาย ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ใต้บังคับบัญชาตลอดจนเครือญาติมีช่องทางทำการอันเป็นทุจริต หรือประพฤติมิชอบ เบียดบังภาษีอากรอันเป็นของประเทศชาติมาเป็นของตนเอง
ประการที่ 5 ซื่อตรงต่อธรรมะหรือความดี คือ การยึดมั่นในหลักคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตใจต่อคุณธรรมและธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชาติและพระศาสนา บูชาความถูกต้องของธรรมเนียมประเพณีนั้นๆ เหนือสิ่งอื่นใด
ประการที่ 6 ซื่อตรงต่อเวลา คือ ไม่โกหกตนเอง ซื่อสัตย์สุจริตต่ออุดมการณ์ของตน ยอมเอาเหตุผลปรับปรุงจนให้เข้ากับเหตุการณ์ อันเป็นแนวคิดหรือความตั้งใจเดิมของตนเอง แต่ถือหลักคืออุดมการณ์เป็นสำคัญ ไม่ฝืนใจในอันที่จะประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ไม่ใช่ปณิธานของตนเอง
ความซื่อตรงที่ได้แสดงไว้ 6 ประการนี้ เป็นหลักสำคัญในการปกครอง ถ้าผู้นำปฏิบัติตนไม่ซื่อตรง ไม่ซื่อสัตย์ต่ออำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบที่มีอยู่แล้ว จะเป็นบ่อเกิดแห่งความประพฤติทุจริตมิชอบและก่อให้เกิดความหวาดระแวง ไม่เชื่อถือไว้วางใจต่อกัน ซ้ำจะก่อให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง ถ้าประพฤติตรงและปฏิบัติตรงต่อกัน มีความจริงใจต่อกัน ก็จะก่อให้เกิดความไว้วางใจยอมรับนับถือ สมัครสมานสามัคคีกลมเกลียว อยู่กันอย่างสงบสุข ปราศจากความหวาดระแวงต่อกัน เรียกว่า อยู่เย็นเป็นสุข ถ้าประพฤติตนตรงกันข้ามผลก็จะมีนัยตรงกันข้ามเช่นกัน คืออยู่กันอย่างหาความสงบสุขไม่ได้ เรียกว่า อยู่ร้อนนอนทุกข์
จากพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงยึดมั่นปฏิบัติด้วยความซื่อตรง ไม่ทรงเอนเอียงเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าปีไหนหรือฤดูกาลใดๆ ทรงรักษาสัจจะที่ได้พระราชทานให้แก่พสกนิกรอย่างสม่ำเสมอ ทรงโดดเด่นเป็นสง่าประทับอยู่ในดวงใจของพสกนิกรชาวไทย 60 กว่าล้านดวงตลอดมา เพราะทรงมีพระราชอัธยาศัยซื่อตรงทรงสัตย์ ปฏิบัติพระราชกรณียกิจเสมอกันหมดไม่ทรงเอนเอียงหรือหนักไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างเด่นชัด พระองค์ทรงเปรียบเสมือนไม้สนที่ยืนต้นเด่นเป็นสง่าไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล สามารถปรับตัวเข้ากับทุกสถานการณ์ได้อย่างน่าอัศจรรย์

พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ. ๙)

เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร

รองเจ้าคณะภาค ๑๔